เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง เริ่มแล้ววันนี้ คลายล็อกพื้นที่สีแดงเข้ม ผ่อนมาตรการโควิด 9 กิจการ หลังสถานการณ์โควิดดีขึ้น ประชาชนทำอะไรได้บ้าง? ในวันที่ 1 ต.ค. นี้เป็นวันแรกที่ทาง ศบค. ผ่อนมาตรการโควิด-19 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด หลังจากที่ยอดผู้ป่วยเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลายตามคำแนะนำของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ดังนี้
สามารถบริโภคในร้านอาหารได้ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ 75% มีเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ 50% เล่นดนตรีได้ เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. (งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้านอาหาร)
ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. (งดตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก สวนน้ำ และห้องประชุม/จัดเลี้ยง)
ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. ยกเว้นการใช้ไอน้ำ
สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่ กิจกรรมที่มีการรวมคน ให้ผ่านความเห็นชอบจากผู้แทน ก.ศธ. และ ก.อว. ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.
นอกจากนี้ยังได้ขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรถึง 30 พฤศจิกายน นี้ ลดระยะเวลาห้ามออกนอกเคหสถานเป็น 22.00-04.00 น และมีมติมติขยายเวลาบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ต่อไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2564
การไฟฟ้าเพชรบูรณ์ ยอมรับเจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลผิดกรณีบิลค่าไฟ 120 ล้าน ตอนนี้แก้ไขแล้วพร้อมเดินทางไปขอโทษผู้ใช้ไฟฟ้า เจ้าตัวไม่ติดใจอะไร จากกรณีที่วานนี้ (30 ก.ย.64) เฟซบุ๊กแฟนเพจ “หมอแล็บแพนด้า” โพสต์ภาพบิลค่าไฟฟ้า 120,549,492.61 บาท จากปกติ 2-3 หมื่นบาท พร้อมกับฝากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคช่วยดูค่าไฟบ้านดังกล่าว
ล่าสุด รายงานจาก เดลินิวส์ ระบุ รองผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เดินทางไปขอโทษผู้ที่ใช้ไฟฟ้ารายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเพชรบูรณ์ (กฟภ.เพชรบูรณ์) อธิบายรายละเอียดทั้งหมดเกิดจากเจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลผิดพลาด ทำให้ระบบคำนวณผิด แต่ได้ทำการแก้ไขบิลค่าไฟให้ถูกต้องแล้ว เป็นจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจริงเพียง 2,200 บาท 78 สตางค์ ซึ่งทางผู้ใช้ไฟฟ้าก็ไม่ได้ติดใจอะไร
ทั้งนี้ ทาง กฟภ. ฝากถึงผู้ใช้ไฟ หากได้รับบิลค่าไฟถูกหรือแพงผิดปกติ สามารถติดต่อสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ หรือ โทรฯ สายด่วน 1129 เพื่อขอตรวจสอบและแก้ไขได้
‘หมอยง’ เผย เด็ก ฉีด mRNA อาการ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ไม่ร้ายแรง
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ให้ความรู้ภายใต้หัวข้อ “วัคซีน เยื่อหุ้มและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด ชนิด mRNA”
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “อุบัติการณ์ของการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิดชนิด mRNA มีแนวโน้มรายงานเพิ่มขึ้น อาจจะเป็นเพราะเฝ้าสังเกตอาการมากขึ้น โดยพบในผู้อายุน้อยมากกว่าอายุมาก เช่นในเด็ก 12 ถึง 17 ปี ผู้ชายพบมากกว่าผู้หญิง อาการเกิดหลังฉีดวัคซีนเข็ม 2 มากกว่าเข็มแรกอย่างชัดเจน การประเมินความเสี่ยงและประโยชน์จากวัคซีน ในเด็ก จึงขึ้นอยู่กับอุบัติการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้มีการรายงานที่มีตัวเลขแตกต่างกันมาก เช่นในเด็กชายอายุ 12-17 ปี หลังการฉีดวัคซีนเข็ม 2 จากเดิมรายงาน 60 รายใน 1 ล้าน เพิ่มขึ้นเป็นในเด็กชาย 12-15 ปี สูงถึง 162 ในล้าน และอายุ 16-17 ปี พบ 94 ในล้าน
ส่วนใหญ่มีอาการใน 1-7 วันหลังได้รับวัคซีน แต่อาจพบได้นานถึง 6 สัปดาห์ อาการ มักไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ มีส่วนน้อยที่ต้องให้การรักษาด้วย IVIG ผู้ป่วยที่ตรวจพบมีความผิดปกติในการทำงานของหัวใจ ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจมักกลับมาปกติภายใน 3 เดือน แต่ยังไม่มีการศึกษาผลกระทบระยะยาว
ทำไมพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ทำไมพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ ทำไมพบในการฉีดเข็ม 2 มากกว่าเข็มแรก คงต้องรอคำตอบการศึกษากลไกการเกิดโรค ในปัจจุบันกลไกการเกิดภาวะดังกล่าวยังไมทราบ
การแนะนำให้หยุดออกกำลังกายภายหลังการฉีดวัคซีน 1-2 สัปดาห์ ไม่ลดผลของการเกิดผลข้างเคียงจากวัคซีน แต่จะลดอาการที่เกิดจากการมีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ไม่ให้มีความรุนแรงได้
ถึงแม้ความเสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจากวัคซีนชนิด mRNA จะพบได้น้อย แต่ยังคงต้องมีการศึกษาถึงหลักเกณฑ์การวินิจฉัย การตรวจวินิจฉัย การส่งต่อและการรักษาที่เหมาะสม ผลกระทบระยะยาวต่อประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ รวมทั้งการออกคำแนะนำการกลับมาการออกกำลังกายหรือพฤติกรรมตามปกติของผู้ป่วยที่มีผลข้างเคียงจากวัคซีน นอกจากนี้ควรศึกษาถึงกลไกการเกิดที่จำเพาะ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ปัจจัยทางพันธุกรรมและประชากรกลุ่มเสี่ยง”
สำหรับนักเรียน นักศึกษา อายุไม่ถึง 18 ปี ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนฯ และต้องเดินทางไปศึกษานอกพื้นที่ ให้สถานศึกษาออกบัตรประจำตัว และให้สำนักงานสาธารณสุขฯ ภูเก็ต ตรวจหาเชื้อ พร้อมออกใบรับรองใช้ได้ครั้งละไม่เกิน 1 เดือน ส่วนผู้นัดหมายฉีดวัคซีนฯ เข็มที่ 2 ต้องมีใบนัดหมาย และตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากนอกพื้นที่ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง